วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

ความเป็นมา



อันประเพณีที่จะ ทำบุญวันเกิด ขึ้นนี้เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่าการมีอายุยืนมาบรรจบรอบปีครั้งหนึ่งๆ ไม่ตายไปเสียก่อนเป็นลาภอันประเสริฐ ควรยินดี เมื่อรู้สึกยินดีก็ควรจะบำเพ็ญกุศล ที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท เพราะไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่งชั้นหนึ่ง เมื่อรู้สึกเช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิตเสียได้ นี้เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการทำบุญวันเกิดขึ้นเรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา



การที่ทรงทำในครั้งนั้นปรากฏว่ามีการสวดมนต์เลี้ยงพระ ๑๐ รูป เป็นการน้อยๆ เงียบๆ ครั้นต่อมาก็มีเจ้านายขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น แต่การทำบุญเกี่ยวกับพระลดลง เป็นแค่ประชุมคนแสดงเกียรติยศให้ปรากฏว่ามีผู้นับถึอมาก ตั้งโรงครัวเลี้ยงกันไปวันยังค่ำการมหรสพก็มีละครเป็นพื้น และนำของขวัญไปให้กันมีการเลี้ยงดูกันอย่างสนุกสนานให้ศีลให้พรกัน ถ้าเป็นวันเกิดเจ้านายขุนนางชั้นผู้ใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานพระราชหัตถเลขาให้พรด้วย พระราชทานของขวัญด้วย สมัยนั้นการทำบุญถือเป็นเกียรติใหญ่ เมื่อถึงวันเกิดของใครก็อึงคนึงเป็นการใหญ่ตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้ว และถือว่าถ้าไม่ไปช่วยงานวันเกิดกันแล้วเป็นไม่ดูผีกันทีเดียว




สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรก็ทรงทำบุญวันพระราชสมภพ ตามอย่างพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิธีทำก็มี สวดมนต์ เลี้ยงพระและแจกสลากสิ่งของต่างๆ แก่พระสงฆ์ ทรงทำตลอดมาจนกระทั่งเสวยราชย์และทำเป็นการใหญ่เช่น หล่อพระพุทธรูปอายุ เรียกว่า “หล่อพระชนมพรรษา” ทั้งมีการตกแต่งตามชาลาพระบรมมหาราชวัง ให้เป็นการครึกครื้นสนุกสนาน ตามริมน้ำและตามถนนก็สว่างไสวไปด้วยแสงประทีปโคมชวาลา จึงได้เกิดมีการแต่งซุ้มไฟประกวดประขันกันขึ้นและมีเหรียญพระราชทานแก่ผู้แต่งซุ้มไฟเป็นรางวัล อนึ่งในวันนั้นได้มีผู้ไปลงนามถวายพระพร พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการอ่านคำถวายพระพรอันเป็นเครื่องหมายแสดงความจงรักภักดี จึงถือเป็นประเพณีเนื่องด้วยทำบุญวันเกิดมาจนปัจจุบันนี้

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

ผิวสวยด้วย "โคลน"




"มีที่หมักโคลนหรือมีโคลน เหมือนทะเลสาบ dead sea ในเมืองไทย หรือเปล่า? " ส่วนตัวแล้วก็เคยไปเยี่ยมเยียนสถานที่นี้เหมือนกัน เลยไม่รอช้าที่จะรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับสาวๆ ชาวสนุก! ค่ะ สถานที่ที่ว่านี้ คือ ภูโคลน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Unseen Thailland แห่งใหม่อยู่ที่ จ.แม่ฮองสอน ที่ภูโคลนแห่งนี้ คือ แหล่งน้ำแร่และโคลนธรรมชาติ ที่เกิดจากสายน้ำแร่ใต้พื้นดิน ที่มีความร้อนตั้งแต่ 60 - 140 องศาเซลเซียส เป็นโคลนเดือด บริสุทธิ์สีดำ ที่ขึ้นมาพร้อมกับน้ำแร่ธรรมชาติที่สะอาด และไม่มีกลิ่นของกำมะถัน (สามารถไปยืนพิสูจน์ใกล้ๆ ได้เลยค่ะ) ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาติที่เป็นประโยชน์ กับผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ ที่นี่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา

มี 2 แห่งอยู่ที่แหล่งน้ำแร่ธรรมชาติจาก เทือกเขาทางภาคกลางในประเทศฝรั่งเศส และโคลนจากประเทศโรมาเนีย สำหรับตัวโคลนนี้มีประโยชน์แก่เราอย่างไรบ้าง ช่วยปรับสภาพความสมดุลของผิวไม่ให้เกิดความแห้งกร้าน สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างปลอดภัยไม่ระคายเคืองผิว สามารถทำความสะอาดได้ลึกถึงรูขุมขน ช่วยบำรุงและควบคุมความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว สร้างและซ่อมแซมเซลส์ผิวที่เสื่อมสภาพไป สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวให้ทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดลึกถึงรูขุมขน ดูดซับความมัน และขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมในเซลล์ของผิว และนอกจากนี้แร่ธาตุบางตัวยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพไปด้วย ทำให้ผิวหน้าดูสะอาดและผ่องใส สำหรับใครที่สนใจอยากใช้เจ้าโคลนสุขภาพนี้ รองรับทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ สามารถแวะเวียนมาแบบเช้าไป เย็นกลับ หรือจะมาพักใน ภูโคลน คันทรี คลับก็ได้ค่ะ ซึ่งมีบริการมากมายให้คุณสาวๆ หนุ่มๆ ได้เลือกใช้ อาทิ พอกหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ, พอกโคลนใบหน้าและทั้งตัว, ขัดและนวดหน้า, อาบน้ำแร่ธรรมชาติ, สระน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมอ่างจากุซี่, อบซาวน่าด้วยสมุนไพร, สนามกอล์ฟ ราคาค่าบริการก็ถือว่าไม่แพงเลย

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

สีของห้องนอน


สีม่วงเข้มเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ถูกใจสำหรับสาวมั่น เหมาะสำหรับการตกแต่งผนังห้องเป็นอย่างมาก เพราะว่าแม้จะดูฉูดฉาดไปสักนิดแต่แท้จริงแล้วมันคือสีที่สงบสุด ๆ เหมาะมากสำหรับการส่งเราเข้านอน และถ้าอยากให้ห้องได้อารมณ์ทันสมัย สบายตามากยิ่งขึ้น ให้ใช้สีขาวแต่งเพิ่มเพื่อความสดชื่น อาจจะเป็นผ้าปูเตียงสีขาวเรียบ ๆ หรือ โคมไฟสีขาวที่วางติดฝาผนังสีม่วงเข้ม รับรองว่าออกมาน่ามองมาก ๆ ต้องมนต์สีเทาม่วง สาวโรแมนติกและรักสันโดษน่าจะถูกใจกับห้องนอนที่เล่นโทนสีเทาผสมม่วงอ่อน เพราะมันช่วยเพิ่มบรรยากาศโปร่ง เบาสบายให้กับห้อง แถมด้วยความสงบที่ทำให้น่านอนมากยิ่งขึ้น




ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมทิ้งความอ่อนหวานเอาไว้ เพียงแต่รู้จักเลือกวางของตกแต่งบางชิ้นในโทนสีม่วงไล่ระดับขึ้นไป เช่น ดอกไลแลคมีม่วงเข้ม หรือ หมอนอิงสีม่วง สีฟ้าคราม รวมไปถึงสีชมพูพาสเทลด้วย ฟ้ารีแลกซ์ ห้องนอนสีฟ้าเป็นสีโปรดสำหรับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายสุด ๆและยังเป็นสีเพียงไม่กี่สีที่สามารถนำมาตกแต่งในโทนเดียวกันทั้งห้องได้อย่างน่าดูอีกด้วย เพียงแค่สลับสีขาวแซมนิดหน่อยก็ทำให้ห้องสีฟ้าดูสดชื่นขึ้นและไม่เลี่ยนจนเกินไป หรือสาวเซอร์บางคนอาจพิสมัยการไล่เฉดฟ้าทั้งห้อง โดยอาจจะมีม่านสีฟ้าน้ำทะเล ผนังห้องสีฟ้าอ่อน ปลอกหมอนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และมีแก้วกาแฟสีฟ้าครามวางเก๋ ๆ อยู่อีกใบที่โต๊ะข้างหัวเตียง เทรนด์นี้ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เปรี้ยวซ่าด้วยเหลืองมะนาว สีเหลืองมะนาวสามารถสร้างความสดใสเปรียวซ่าให้ห้องนอนแบบร่วมสมัยได้เป็นอย่างดี แต่ต้องใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นจึงจะทำให้ห้องดูน่ามอง เช่น การเลือกปลอกหมอนสีเหลืองมะนาววางตัดกับผ้าปูที่นอนสีน้ำผึ้ง หรือการเลือกภาพประดับฝาผนังสีเหลืองมะนาวบนผนังห้องสีม่วงอ่อน รับรองว่าห้องสีเหลืองมะนาวจะช่วยปลุกเร้าอารมณ์เนือย ๆ ให้รู้สึกเฟรชขึ้นมาได้เป็นอย่างดี เขียวแสนสบาย ห้องนอนสีเขียวอ่อนสดใสจะทำให้เจ้าของห้องรู้สึกอารมณ์ดี มีพลัง เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และพร้อมสำหับการเรียนรู้ใหม่ ๆ ช่วยเปลี่ยนความจำเจเดิม ๆ ให้ดูทันสมัย แปลกตาขึ้น
โดยเฉพาะคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในห้องให้กลายเป็นห้องนอนโซนเขตร้อนที่แสนสบาย เพิ่มความสดชื่นแบบสุดขั้วด้วยการวางกระถางต้นไม้สีเขียวสดไว้ตามมุมห้อง และพยายามหาสีแดงสดมาตัดสีเขียวในของตกแต่งบางชิ้น เช่น ริบบิ้นที่ปลอกหมอน หรือ โคมไฟ ชมพูร้อนแรง ห้องนอนโทนสีชมพูร้อนแรงจะให้ความรู้สึกของความเป็นหญิงสาว ทำให้เรารู้สึกอ่อนหวานและละเมียดละไมในอารมณ์มากขึ้น แถมยังใช้บ่งบอกความเป็นเอเชียได้ดี โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้สีชมพูแปลกตาหลาย ๆ เฉดมาตกแต่งรวมกัน รวมไปถึงเนื้อผ้าที่เลือกใช้ อย่าง ผ้าไหมมันระยับ หรือผ้าส่าหรี จะทำให้ห้องนอนดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น และความลับของสีชมพูก็คือ เมื่อถูกจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยวัสดุจากธรรมชาติ อย่าง ไม้ไผ่ หวายสาน ฯลฯ




จะทำให้เพิ่มเสน่ห์และพลังลึกลับของสาวตะวันออกสำแดงอำนาจให้น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น ส้มคลาสสิก ห้องนอนสีทองเข้มและสีส้มคือแรงบันดาลใจของความคลาสสิก อบอุ่น และมีพลัง คนที่ใช้ห้องนอนโทนสีนี้มักเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นและความคิดสร้างสรรค์ แต่ถ้าไม่อยากรู้สึกอึดอัดจนเกินไป ให้เลือกใช้สีขาวแทรกในบางช่วง บางมุม เช่น ผ้าปูที่นอนหรือกรอบรูป แต่ถ้ารู้จักใช้โทนสีดังกล่าวให้เป็น ห้องนี้จะสวยแปลกตามาก ๆ เพราะถ้าหากทาสีผนังห้องด้วยสีทองเข้ม หรือเหลืองอมทอง ห้องนี้จะอบอุ่นคล้ายแสงพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างตอนรุ่งเช้า ส่วนสีส้มสดใสจะช่วยทำให้ห้องดูสนุกและมีพลังสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ข้อแนะนำง่าย ๆ เมื่อเกิดอาการนอนไม่หลับ

- ใช้เตียงนอนเพื่อนอนเท่านั้น อย่าดูทีวี หรือเล่นเกมบนเตียง
- เข้านอนเมื่อง่วงเท่านั้น แต่ต้องพยายามตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน
- งดบุหรี่ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนซึ่งจะมีผลต่อการนอนหลับ โดยเฉพาะการประทานใกล้เวลานอน เพราะคาเฟอีนนั้นจะไปกระตุ้นสมอง ทำให้มีผลต่อการนอนหลับ จะทำให้หลับยากขึ้น
- อย่างีบหลับตอนกลางวัน แต่ถ้าจะมีการงีบหลับในช่วงบ่าย อาจจัดเวลาให้เป็น ประจำสม่ำเสมอและไม่ควรเกิน 1-2 ชม. ไม่ควร งีบหลับหลัง 15.00 นาฬิกา เพราะอาจ มีผลต่อการนอนหลับในคืนนั้น ๆ ได้
- พยายามหาเวลาออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน แต่ไม่ควรออกกำลังกายใน เวลากลางคืน
- อ่านหนังสือเบา ๆ หรือฟังเพลงเบา ๆ ก่อนนอน อย่าอ่านสิ่งที่จะทำให้เครียด หรือ ตื่นเต้น
- เมื่อเข้านอน 15 นาทีแล้วไม่หลับ ให้ลุกขึ้นหาสิ่งเบา ๆ ทำเป็นการผ่อนคลาย เพราะ การบังคับให้หลับจะยิ่งทำให้หลับยากยิ่งขึ้น