วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ประวัติวันวาเลนไทน์

.. วันวาเลนไทน์ ..

วันวาเลนไทน์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยัง สืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการ ที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลายครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญ " วาเลนไทน์ " ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สองท่าน นักบุญ วาเลนไทน์ และนักบุญ มาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับๆด้วย

และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้ นักบุญ วาเลนไทน์ ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์

.. ทำไมจึงชื่อ " วันวาเลนไทน์ " ..

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันวาเลนไทน์ ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกันส่งใจถึงกัน นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี เป็นประเพณีที่หนุ่มสาวนิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศอังกฤษ

.. คิวปิด ..

คนทั่วไปรู้จัก คิวปิด ในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร ศรรักของ คิวปิด หมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิด จะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกัน
คิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก ในกรีกโบราณ คิวปิด เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เอโรส ลูกชาย แอฟโพไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงามแต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือ คิวปิด และแม่ของเขาคือ วีนัส

.. ดอกไม้ " วันวาเลนไทน์ " ..

มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย



กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น



กุหลาบดำ หมายถึง ความรักนิรันดร์




กุหลาบแดง จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน



กุหลาบขาว สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้



กุหลาบชมพู มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้



กุหลาบเหลือง สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง




.. ชอคโกแลตกับวันวาเลนไทน์ ..

ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายหญิงนิยมที่จะมอบชอคโกแลตให้กับฝ่ายชาย (ส่วนผู้ชายจะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ความนิยมการมอบชอคโกแลตนั้นเกิดขึ้นมาจากการใช้เครื่องมือทางการตลาดของบริษัทผลิตชอคโกแลต ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกกระตุ้นให้บอกรักอย่างชัดเจนกับผู้ชายโดยการมอบชอคโกแลตและของขวัญชนิดอื่นในวันที่ 14 กุมภาของทุกปี

ผู้หญิงบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์ และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับชอคโกแลตด้วยและบางครั้งจะเป็นชอคโกแลตทำเอง ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก

ดอกดาหลา





ดาหลาเป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายข่า มีลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า (rhizome)
เหง้านี้จะเป็นบริเวณที่เกิดของหน่อดอกและหน่อต้น
ดาหลา 1 ต้น สามารถให้หน่อใหม่ได้ประมาณ 7 หน่อ ในเวลา 1 ปี
ส่วนลำต้นเหนือดินเป็นกาบใบที่โอบซ้อนกันแน่น เช่นเดียวกับพวกกล้วย
ส่วนนี้คือลำต้นเทียม (pseudostem) ลำต้นเหนือดินสูง 2-3 เมตร มีสีเขียวเข้ม
ใบมีรูปร่างยาวรี กลางใบกว้างแล้วค่อย ๆ เรียวไปหาปลายใบ และฐานใบ ใบไม่มีก้านใบ
ผิวเกลี้ยงทั้งด้านบนและด้านล่าง ใบยาว 30-80 เซ็นติเมตร กว้าง 10-15 เซนติเมตร
ปลายใบแหลม ฐานใบเรียวลาดเข้าหาก้านใบ เส้นกลางใบปรากฏชัดทางด้านล่างของใบ



ดอกดาหลาเป็นดอกช่อมีลักษณะดอกแบบ (head) ประกอบด้วยกลีบประดับ (Bracts)
มี 2 ขนาด ส่วนโคนประกอบด้วยกลีบประดับขนาดใหญ่ มีความกว้างกลีบ 2-3 ซ.ม.
จะมีสีแดงขลิบขาวเรียงซ้อนกันอยู่และจะบานออก ประมาณ 25-30 กลีบ
และมีกลีบประดับขนาดเล็กอยู่ส่วนบนของช่อดอก ความกว้างกลีบประมาณ 1 ซ.ม.
ซึ่งมีสีเดียวกับกลีบประดับขนาดใหญ่ กลีบประดับเล็กนี้จะหุบเข้าเรียงเป็นระดับ
มีประมาณ 300-330 กลีบ ภายในกลีบประดับขนาดใหญ่ที่บานออกจะมีดอกจริงขนาดเล็ก
กลีบดอกสีแดง ซึ่งเป็นดอกสมบูรณ์เพศอยู่จำนวนมาก



ดอกบานเต็มที่จะมีขนาดความกว้างดอกประมาณ 14-16 เซนติเมตร
ความยาวช่อ 10-15 เซนติเมตร มีก้านช่อดอกยาว 30-150 เซนติเมตร
ลักษณะก้านช่อดอกแข็งตรง ดอกจะออกตลอดปีแต่จะให้ดอกดกที่สุดในช่วงฤดูร้อน
คือ เดือนมีนาคม - พฤษภาคม ดอกจะพัฒนามาจากหน่อดอกที่แทงออกมาจากเหง้าใต้ดิน
ลักษณะของหน่อจะมีสีชมพู ที่ปลายหน่อ





...........................................

ไอศกรีม ดอกไม้ เป็นนวัตกรรมจากดอกไม้อัมพวา 5 ชนิด คือ ดาหลา เข็ม กุหลาบมอญ บัว และอัญชัน ซึ่งเป็นดอกไม้พื้นบ้าน ที่มีพบเห็นได้ทั่วไปในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสาคร และผู้ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ก็คงจะได้ลองลิ้มชิมรสชาติกันมาแล้ว

ที่มาของไอศกรีมดอกไม้สด มาจากความตั้งใจของสองพี่น้อง ที่ไม่ได้หยุดคิดที่จะพัฒนาสินค้าตัวใหม่ จนได้มาพบกับ “อาจารย์อัจฉรา แก้วน้อย” จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งได้คิดค้นการทำสารสกัดเข้มข้นจากดอกไม้ ร่วมกับนักศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร โดยได้รับทุนวิจัยตามโครงการ IRPUS ของสกว. ซึ่งทางมหาวิทยาลัย ให้ความสนใจเลือกผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของเรามาพัฒนาเป็นไอศกรีมดอกไม้ไทย “ทางอาจารย์อัจฉรา ได้ให้เราเลือกดอกไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือ จำนวน 3 ชนิด เพื่อนำมาทำไอศกรีม แต่เนื่องจากเราต้องการให้เกิดความหลากหลายแก่ผู้บริโภค เราจึงขอเลือกดอกไม้ทั้ง 5 ชนิด โดยในครั้งแรกได้มีการทดลองนำมาทำไอศกรีมใน 3 รูปแบบ คือ โยเกิร์ต เชอร์เบต และ นม เพื่อทดลองดูว่าสารสกัดเข้มข้นจากดอกไม้ เข้ากับ ไอศกรีมในรสชาติใดได้บ้าง”

ทั้งนี้ ทีมงานอาจารย์ และนักศึกษาได้ทดลองทำไอศกรีมทั้ง 3 สูตร เพื่อให้เรานำไปให้ลูกค้าได้ทดลองชิมว่าชื่นชอบไอศกรีมดอกไม้ในรสชาติแบบไหน และเนื่องจากดอกไม้ส่วนใหญ่จะไม่มีรสชาติที่โดดเด่น จึงต้องมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถไปด้วยกันได้กับดอกไม้ทั้ง 5 ชนิด เพื่อทำให้ไอศกรีมมีรสชาติที่ดี นอกเหนือจากความแปลกใหม่ ซึ่งความแปลกใหม่ นั้นอาจจะเรียกลูกค้าให้มาทดลองชิมในช่วงแรก แต่ถ้ารสชาติไม่ดี ครั้งต่อไปก็คงจะขายไม่ได้ “เราพยายาม จะหาวิธีว่าเราจะใช้สารสกัดเข้มข้นจากดอกไม้อย่างไรให้เหมาะกับไอศกรีม ซึ่งได้มีพูดคุ๋ยกับทางทีมงานนักศึกษา และอาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่นำสารสกัดมาให้เราอยู่หลายครั้ง และได้ดึงจุดเด่นของดอกไม้แต่ละชนิดออกมา และนำมาพัฒนาที่ละตัว เริ่มจาก ดอกกุหลาบ อาจารย์เลือกใช้ดอกกุหลาบมอญ ซึ่งกุหลาบมีความโดดเด่นเรื่องกลิ่น เราก็เติมส่วนผสมของนมลงไป ซึ่งไอศกรีมกุหลาบที่ได้ จะมีโดดเด่นเรื่องกลิ่นของกุหลาบ บวกกับความหวานของนม ทำให้ได้ไอศกรีมที่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม”

ดอกอัญชัน จะมีสีที่โดดเด่น เราเลือกใช้มะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนผสมของไอศกรีมดอกอัญชัน ซึ่งก็ไปด้วยกันได้ดี เพราะมะพร้าวน้ำหอมเพิ่มความหวานมันให้กับไอศกรีมดอกอัญชัน และมะพร้าวน้ำหอมก็ยังเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่มีการปลูกในอัมพวาด้วย ส่วนดอกเข็ม จะมีความหวานของเกษรดอกเข็ม ผสมกับความเปรี้ยวของสตอเบอรี่เชอร์เบต และเติมความน้ำหวานของน้ำตาลสด ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของอัมพวาเข้าไป ทำให้ไอศกรีมดอกเข็มออกมาลงตัวที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้

สำหรับดอกบัว ทำจากสารสกัดเกสรดอกบัว และความมันของบัว และเมื่อเติมเม็ดบัวลงไปทำให้ไอศกรีมเม็ดบัวมีความหวานมันตามธรรมชาติ และดอกดาหลา นั้นมีความโดดเด่นเรื่องของรสชาติที่ออกเผ็ดร้อน และฝาด สุดท้ายเราก็เลือกไวน์ผลไม้มาเป็นส่วนผสม ซึ่งสารสกัดดอกดาหลา เมื่อนำมาทำไอศกรีมและผสมกับไวน์ผลไม้กลับไปด้วยกันได้ดี ลูกค้ากินแล้วชื่นชอบ เพราะได้รสชาติของไวน์ผลไม้ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าผู้ชาย ที่ได้ชิม

ทั้งนี้ ไอศกรีมดอกไม้ทั้ง 5 ชนิด มีความแตกต่างกัน ทำให้สามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เช่น ไอศกรีมดาหลา จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าผู้ชาย ไอศกรีมดอกเข็มสตอเบอรี่ จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าผู้หญิง หรือ ถ้าเป็นไอศกรีมกุหลาบ และบัว จะมีความมันของนม และเม็ดบัว จะเป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นและ ผู้ใหญ่ แต่ที่สำคัญ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเทรนด์ของคนรักสุขภาพ เพราะสมุนไพรดอกไม้ ทั้ง 5 ชนิด ทางทีมงานวิจัยได้มีการส่งไปตรวจสอบในห้องทดลอง เพื่อตรวจสอบหาสารที่เป็นอันตราย จากสารเคมี หรือยาฆ่าแมลง และตรวจสอบหาสารที่เป็นประโยชน์ พบว่า ดอกไม้ทั้ง 5 ชนิดมี ไม่มีสารที่เป็นอันตราย และมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังป้องกันโรคความจำเสื่อม มะเร็ง และโรคหัวใจ ได้อีกด้วย




ปัญจรัตน์ เล่าว่า เนื่องจากที่ผ่านมา อัมพวายังไม่มีสินค้าประจำท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ และเมื่อมีโอกาสได้ถวายไอศกรีมดอกไม้อัมพวา ในครั้งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จมายังตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งพระองค์ได้ขอให้ไอศกรีมดอกไม้เป็นสินค้าประจำท้องถิ่นของอัมพวา ซึ่ง เราก็เห็นด้วย จึงได้มีแผนที่จะตั้งร้านไอศกรีมดอกไม้ ซึ่งเราตั้งชื่อแบรนด์ว่า “ศรีมาลา” โดยต้องการจะทำให้ร้านไอศกรีมศรีมาลา เป็นร้านไอศกรีมชื่อดังที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ





และถ้าประสบความสำเร็จในการเปิดร้านศรีมาลาที่อัมพวา มีแผนที่จะขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ ร้านไอศกรีมศรีมาลา ในท้องที่อื่นๆ รวมถึงการขยายตลาดร้านไอศกรีมศรีมาลา ไปเปิดในต่างประเทศด้วย โดยประเทศที่มองไว้ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ เพราะทั้งสองประเทศนี้ จะมีกลุ่มของคนที่สนใจในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพอยู่มาก

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553

นาฬิกาที่แพงที่สุดในโลก



ประวัติความเป็นมา

Patek Philippe เป็นบริษัทผลิตนาฬิกาเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ซึ่งผลิตแต่นาฬิกาคุณภาพสูงต่อเนื่องกันมากว่า 160 ปี บริษัทแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1839 ที่เมืองเจนีวา โดยนาย Antoine Norbert de Patekชาวโปรแลนด์ ได้ร่วมมือกับช่างทำนาฬิกาชื่อ Francois Czapek ชาวฝรั่งเศส ตั้งเป็นบริษัท Patek, Czapek & Cie. ในช่วงนั้นมีการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงออกมาประมาณปีละ 200 เรือน หกปีให้หลังทาง Czapek ก็ได้แยกตัวออกไป ในปี ค.ศ.1844 นาย Patek ก็ได้พบกับช่างทำนาฬิกาอีกคนหนึ่งซึ่งก็ได้กลายมาเป็นชื่อของบริษัทมาจนถึงปัจจุบันก็คือนาย Jean-Adrien Philippe นาย Philippe นี้เป็นผู้มีพรสวรรค์ในการประดิษฐ์คิดค้นระบบต่างๆของนาฬิกา โดยได้สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากให้กับบริษัท โดยได้คิดค้นระบบไขลานและตั้งเวลาของนาฬิกาโดยใช้เม็ดมะยมแทนกุญแจ และได้ผลิตนาฬิกาแบบนี้ถวายแด่พระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษด้วย ในปี 1932 บริษัท Patek Philippe ก็ได้ถูกซื้อกิจการไปโดยตระกูล Charles & Jean Stern ซึ่งยังคงนโยบายเดิม กล่าวคือ Patek Philippe จะไม่เป็นนาฬิกาแฟชั่น เน้นคุณภาพเลิศ ดังเห็นได้จากคำโฆษณาที่ว่า คุณไม่อาจครอบครอง Patek Philippe ได้โดยสิ้นเชิง ด้วยว่าคุณเป็นเพียงผู้เก็บรักษา Patek Philippe ไว้สำหรับชนรุ่นหลังคุณภาพสูงย่อมเป็นที่มาของราคาสูง นาฬิกาของ Patek Philippe มีราคาหลายแสนยูโร คิดเป็นเงินไทยแล้วสยอง นาฬิกาอะไรเรือนละหลายล้านบาท Patek Philippeไม่ได้ผลิตนาฬิกาแต่ละรุ่นเป็นจำนวนมาก ต้องสั่งซื้อ และต้องคอยไปไม่น้อยกว่า ๙ เดือน จึงจะได้รับนาฬิกา เป็นเพราะโรงงานต้องผลิตชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด แล้วจึงประกอบเข้าด้วยกัน ในบรรดานาฬิกาที่แพงที่สุดในโลก ๒๐ เรือนแรกเป็นนาฬิกา Patek Philippe ถึง ๕ เรือน และแม้ในการประมูลนาฬิกา Patek Philippe หนึ่งเรือนราคาเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ขายประมูลได้ทั้งหมด Patek Philippe จึงได้สมญานามว่า ราชินีแห่งการขายประมูล Patek Philippe รุ่นปี ๑๙๓๙ เรือนและสายเหล็กกล้าขายประมูลได้ถึง ๑.๔ ล้านยูโร ในเดือนเมษายน ๒๐๐๔ หรือนาฬิการุ่น Henry Graves ขายประมูลได้ถึง ๑๑ ล้านดอลลาร์ในปี ๑๙๙๙ นับเป็นนาฬิกาที่แพงที่สุดในโลก

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ครั้งร้ายแรง ที่ประเทศ เฮติ ยอดผู้เสียชีวิตอาจทะลุแสนคน

นายกฯ เฮติรับยอดตายจากแผ่นดินไหวอาจทะลุแสนศพ!!

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีเฮติ ยอมรับเมื่อวันพุธ(13) ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวอาจทะลุ 100,000 คน ตามสภาพเมืองหลวงที่ได้รับความเสียหายร้ายแรง ขณะที่ทีมแพทย์เริ่มเผชิญปัญหาผู้ได้รับบาดเจ็บล้นศูนย์รักษา

ยอดผู้เสียชีวิตสุดท้ายอาจ “พุ่งขึ้นไปเหนือ 100,000 คน” ฌอง แมก เบลเลริเว นายกรัฐมนตรีเฮติบอกกับสถานีโทรทัศน์ของสหรัฐฯ หลังจากประเทศในแถบแคริบเบียนของเขาต้องประสบแผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ ทำลายเกือบทั้งกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศ

“มันยากที่จะประเมินยอดของผู้เคราะห์ร้าย จำนวนสิ่งก่อสร้างหรืออาคารต่างๆ ที่พังถล่มลงมา แต่ถ้าถามถึงตัวเลขของผู้ที่อยู่ภายใน ผมเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่า 100,000คน” เบลเลริเว กล่าว “แต่ผมก็หวังว่ามันจะไม่เป็นความจริง เพราะผมหวังว่า ณ ตอนนั้นผู้คนจะออกมาข้างนอก ซึ่งเราก็เห็นประชาชนมากมายอยู่บนท้องถนนในตอนนี้ แต่เราก็ไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นมาจากไหน”




“แต่กระนั้นก็มีอาคารและบ้านเรือนราษฎรจำนวนมากเหลือเกินที่ถูกทำลาย และในแถบใกล้เคียงเราก็ไม่เห็นผู้คน ดังนั้น เราจึงไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว พวกเขาไปอยู่ที่ไหน” เขากล่าว พร้อมเปิดเผยว่าเขาพยายามลงไปในทุกพื้นที่เพื่อประเมินความเสียหายในกรุงปอร์โตแปรงซ์ โดยเฉพาะเขตชุมชนแออัดหลายแห่งที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

“เมื่อคืนที่ผ่านมา ผมพยายามไปสำรวจทุกพื้นที่ พวกเขาบอกกับผมว่าที่นั่นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก” นายกรัฐมนตรีเฮติกล่าว “ผมไม่เห็นบ้านเรือนหลงเหลืออยู่เลย ผมไม่เห็นประชาชนออกมาจากที่นั่น ซึ่งมันต่างจากที่อื่นๆ ที่ผมไปสำรวจมา”

ด้านองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน เมื่อวันพุธ(13) เปิดเผยว่าประสบปัญหาในการรับมือกับผู้ได้รับบาดเจ็บที่หลั่งไหลมาจนล้นศูนย์รักษาที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราว ตามหลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง

“อาคารสาธารณสุขของเรา ทั้งได้รับความเสียหายและพังถล่มลงมา ดังนั้น เราจึงไม่สามารถใช้งานมันได้” เจ้าหน้าที่ขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน บอกกับผู้สื่อข่าว

องค์กรแพทย์นานาชาติแห่งนี้ได้จัดตั้งศูนย์การแพทย์ชั่วคราวทั้งในและรอบนอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ ทว่าสามารถให้ความช่วยเหลือได้เพียงทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานแก่เหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวเท่านั้น สืบเนื่องจากไม่มีอาคารสำหรับดำเนินการผ่าตัด

กรุงปอร์โตแปรงซ์ ต้องปราศจากไฟฟ้านับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในช่วงเย็นของวันอังคาร(12) ตามเวลาท้องถิ่น และสายโทรศัพท์ก็ขัดข้อง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงนี้ยังได้ก่อความเสียหายครั้งใหญ่แก่สหประชาชาติ ซึ่งอาจสูญเสียเจ้าหน้าไปในเหตุการณ์นี้นับร้อยคน เจ้าหน้าที่ระบุเมื่อวันพุธ(13) จน บันคีมุน เลขาธิการยูเอ็น ยอมรับว่าเหตุแผ่นดินไหวนี้คือ “โศกนาฏกรรมสำหรบเฮติและสหประชาชาติ”

ส่วนโฆษกของสหประชาชาติเปิดเผยที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันเดียวกันว่าเจ้าหน้าที่ประจำต่างประเทศของยูเอ็นในเฮติมากกว่า 200 คนยังคงสูญหายตามหลังแผ่นดินไหว ที่ทำให้อาคารสำนักงานของยูเอ็นในกรุงปอร์โตแปรงซ์ พังถล่มลงมา ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเฮดี อันนาบี ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติในเฮติและผู้ช่วยของเขา

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

ความรักกับความเศร้า ทำไมคนเราต้องมี

รู้ไหม?...ทำไมคนเราถึงเกิดมาแล้ว มีความรัก และความเศร้า เพราะความจริงแล้ว
"ความรัก" และ "ความเศร้า" เป็นของคู่กันเสมอ
เหมือนกับ ชาย และหญิงที่เกิดมาคู่กัน
เพียงแต่...คู่ชาย – หญิง อาจจะไม่ได้สมใจดังปรารถนา

บางคนรัก กับอีกคน แต่พอเอาเข้าจริง กลับแต่งงานอีกคน
บางคนรักกันจะเป็น จะตาย
สุดท้าย...พอเลิกกัน ก็ไม่วายหมางเมินกัน
และกลายเป็นศัตรูกันในที่สุดการที่เราได้รักใครสักคน...
มันเป็นความสุขที่มากล้นเหลือเกิน
แต่คนที่เราคิดว่าใช่ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้

จะมีสักกี่คน ที่ จะไม่เคยรับรู้รสชาติแห่งความรัก
จะมีใครสักกี่คน ที่ไม่เคยรับรู้รสชาติที่เจ็บปวดแม้แต่ครั้งเดียว
มันชั่งยากนัก...ที่จะได้พบเจอคนเหล่านั้น
ความรัก ไม่ได้ทำให้เราต้องเจ็บปวดเสมอไป
เส้นที่กั้นระหว่างความรัก มันคืออะไร?
คุณเคยลองค้นหามันหรือยัง?...
หรือคุณไม่เคยที่จะค้นหามันเลย



การที่คุณ 2 สองคน จะได้พบกัน...
มันอยู่บนเส้นทางไหน คุณทราบหรือเปล่า
คุณเคยสงสัยไหม? ทำไมระยะทางมันยาวไกลนัก
จนคุณอาจจะหลงทางไปไกลมากแล้ว


คุณเคยแบ่งเส้นกั้นระนาบไว้ไหม?
เคยมีคนพูดว่า...เพื่อน ไม่สามารถเป็นคนรักได้
แต่บางครั้งความรัก...ก็เริ่มมาจากเพื่อน
ประโยคนี้มันทำให้ฉัน รู้สึกดี และเศร้ามาก ไม่ว่าอะไรจะขวางกั้นเราไว้
ถ้าเรามีความรัก ความเข้า ความห่วงใย ให้กันแล้ว
ความเศร้า...ก็จะไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกของเราได้


วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

Moi Meme

** Je suis sociable,ambitieux,gaie,reflechi et affectueux

** Je n'aime pas les timide,inquiet,peur,impatients et Pas sûr

** Je suis Gentil et Long lentement mais Je n'aime pas secret